BMW Z4 ( E89 ) รถสปอร์ต ที่ใครก็อยากครอบครอง
มีข่าวใหญ่เรื่อง รถสปอร์ต BMW Z4 ( E89 ) ซิ่งเปิดประทุนฝ่าสายฝนด้วยความเร็วสูงจนประสบอุบัติเหตุโด่งดังขึ้นมาเพียงชั่วข้ามคืน เราจึงตั้งใจจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับ BMW Z4 ( E89 ) ว่าทำไมจึงกลายเป็น รถสปอร์ต ที่ใครก็อยากครอบครอง
หลังจาก BMW Z4 รุ่นแรก มีแนวโน้ม ทางการตลาด ที่ดี แม้ยอดขาย ไม่เท่ากับ BMW Z3 แต่ก็แสดง ให้เห็นว่า แนวทางของรถ Roadster ที่ทุกคน สามารถเข้าถึงได้จริง เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น BMW จึงต้องพยุง กระแสนี้ต่อไป ด้วยการผลักดัน ให้เกิด Z-Series รุ่นที่ 5 หรือนับเป็น BMW Z4 รุ่นที่ 2 แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็น BMW รุ่นแรก ที่ออกแบบ โดยสุภาพสตรี โดย Juliane Blasi เป็นผู้ดูแล การออกแบบ ภายนอก ที่มันถูกขยายมิติ ให้ใหญ่กว่า ในทุกด้าน เพื่อการใช้งาน ที่สะดวก สบาย มากขึ้น ไฟหน้าที่มีแถบ เปรียบเสมือน คิ้วที่ดูเซ็กซี่ ของสาว ๆ เป็นไอเดีย ที่ล้ำเลิศ ในส่วนของ ห้องโดยสาร รับผิดชอบ การออกแบบโดย Nadya Arnaout เธอตกแต่งด้วย วัสดุพิเศษ ตามจุดต่าง ๆ หลังคา ที่เคยใช้ หลังคาผ้าใบ มาในทุก เจนเนอเรชั่น แต่ในรุ่นนี้ ได้สรุปว่า การใช้หลังคาแข็ง แบบพับเก็บได้ นั้น สามารถเพิ่ม ความแข็งแรง และ ลดเสียงรบกวน
BMW Z4 รุ่นที่สองนี้ ในช่วงแรก ทำตลาด ด้วยรุ่น เครื่องยนต์ 6 สูบ ไม่มีเทอร์โบ รหัส N52 ทั้งในรุ่น
- sDrive23i 2.5 ลิตร 204 แรงม้า
- sDrive30i 3.0 ลิตร 258 แรงม้า
ก่อนจะมีรุ่นตัวแรง sDrive35i เครื่อง N54 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ 302 แรงม้า ใน BMW Z4 รุ่นนี้ BMW จะไม่ทำรถที่เป็น M-Car เต็มรูปแบบ ออกมาแล้ว มีเพียงชุดแต่ง M Sport มาเสริมลุคให้ดูโหดขึ้น เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ใจร้าย เสียทีเดียวเพราะ BMW ก็ให้รางวัล คนเท้าหนัก ด้วยการออกรุ่น sDrive35is ที่ใช้เครื่องยนต์ N54 3.0 ลิตร เวอร์ชั่น ปรับปรุงแล้ว ที่แรงถึง 335 แรงม้า กับแรงบิด 450 นิวตันเมตร
และในช่วง บั้นปลาย การทำตลาด ก็มีการปรับปรุง ครั้งใหญ่ ด้วยการ หันมาคบ เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อม เทอร์โบชาร์จ รหัส N20 ที่เพิ่งพัฒนา มาสด ๆ ร้อน ๆ ในรุ่น sDrive20i ( 184 แรงม้า ) และ sDrive 28i ( 245 แรงม้า ) แทนทั้งสองรุ่นเล็ก ที่เคยทำตลาด มาก่อน รวมถึงมี รุ่นประหยัด อย่าง sDrive18i ( 154 แรงม้า ) สำหรับบางตลาด ที่ต้องการ ความประหยัด อีกด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้ว น่าเสียดาย ที่มันก็ยังทำยอดขาย ได้ไม่เท่า รุ่นก่อนหน้า
เปิดสเปก BMW Z4 ( E89 )
- ติดตั้ง เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ Twin Power Turbo ความจุ 2.0 ลิตร มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 184 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน - เมตร
- เกียร์ อัตโนมัติ แบบ 8 สปีด
- Steptronic สามารถเปลี่ยน อัตราทดเกียร์เองได้ สามารถ เร่งความเร็ว จาก 0-100 กม. / ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.2 วินาที และ ทำความเร็วสูงสุด ได้ราว 232 กม. / ชม. เลยทีเดียว
สำหรับราคาจำหน่ายของ BMW Z4 sDrive20i ในสมัยนั้น อยู่ที่ ประมาณ 3,999,000 บาท ก่อนจะถูก แทนที่โดย BMW Z4 รหัสตัวถัง G29 ที่วางจำหน่าย อยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ ราคามือสอง ในปัจจุบัน อยู่ประมาณ 1.8 ล้าน ไปจนถึง 2 ล้านบาทต้น ๆ ขึ้นอยู่กับปี และ สภาพ ของแต่ละคัน
อ่านบทความเพิ่มเติม