รถเสียสตาร์ทไม่ติด ปัญหาผู้ที่ใช้รถหลายคนคงเคยประสบ ซึ่งมักมีสาเหตุมาจาก แบตเตอรี่รถยนต์หมด หากเกิดปัญหานี้ สามารถแก้ได้ด้วยการ พ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ โดยต้องมีหลักในการทำที่ถูกต้อง และปลอดภัยด้วย
แบตเตอรี่รถยนต์ ( Battery ) อุปกรณ์ที่มี ความสำคัญกับ รถยนต์ เป็นอย่างมาก เพราะ แบตเตอรี่ เป็นตัวสำรองไฟฟ้าให้กับรถยนต์ ในการทำงานของ เครื่องยนต์ และระบบไฟต่าง ๆ ภายในรถได้ รถยนต์ที่มีแบตเตอรี่ หมดอายุการใช้งาน หรือเสื่อมสภาพ จะทำให้รถยนต์มีปัญหา ได้แก่ รถสตาร์ทติดยาก รถสตาร์ทไม่ติด กระจกไฟฟ้าไม่ทำงาน เป็นต้น
ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด เป็นปัญหาใหญ่สุด หากแบตเตอรี่ หมดอายุ หรือเสื่อมสภาพไป ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถขับรถใช้งานต่อไปได้ จนกว่าจะได้รับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือพ่วงแบตเตอรี่ ซึ่งวิธีการที่ผู้ขับขี่ สามารถแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองได้เบื้องต้น คือ การขอพ่วงแบตเตอรี่ จากรถคันอื่น นั่นเอง โดยการพ่วงแบตเตอรี่ให้ถูกต้อง และปลอดภัย มีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ดับเครื่อง และอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด ภายในรถ
2. ให้รถอีกคันที่มีแบตเตอรี่ปกติ มาจอดใกล้ ๆ รถที่มีปัญหา เพื่อทำการต่อ สายพ่วงแบตเตอรี่ โดยรถที่มีแบตเตอรี่ปกติ ก็ต้องดับเครื่อง และอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งหมดภายในรถเช่นกัน
3. นำสายพ่วงแบตเตอรี่ ฝั่งสีแดง ( ขั้วบวก ) ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถอีกคัน ที่มาช่วยเหลือ โดยควรต่อสายพ่วงกับรถที่มีปัญหาก่อนรถที่มาช่วย
4. นำสายพ่วงแบตเตอรี่ ฝั่งสีดำ ( ขั้วลบ ) ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วลบของรถที่มีแบตเตอรี่ปกติ สายอีกฝั่งให้หนีบที่โลหะในเครื่องยนต์ ( สายอีกฝั่ง ไม่ได้ต่อกับรถที่แบตเตอรี่หมด )
5. หลังจาก ติดตั้งสายพ่วงแบตเตอรี่ เรียบร้อยแล้ว ให้รถที่มีแบตเตอรี่ปกติ สตาร์ทเครื่องยนต์ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที เร่งเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อให้แบตเตอรี่มีการไหลเวียน ประจุไฟฟ้าได้
6. จากนั้น รถคันที่แบตเตอรี่หมด สตาร์ทเครื่อง และลองเร่งเครื่อง เพื่อทดสอบว่าประจุไฟฟ้าได้เข้ามาที่แบตเตอรี่แล้ว
7. เมื่อรถที่แบตหมด สตาร์ทเครื่องได้แล้ว ให้ถอดแบตเตอรี่ออก โดยเลือกถอดขั้วลบคันที่รถแบตหมดก่อน แล้วถอดขั้วลบ ตามด้วย ขั้วบวกของรถที่แบตปกติ และขั้วบวกของรถที่แบตหมด ตามลำดับ
8. หลังจากนั้น ควรนำรถยนต์ไปตรวจเช็ค ความผิดปกติของ แบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการ เพื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือเช็คสภาพของแบตเตอรี่
การพ่วงแบตเตอรี่ ( Battery ) หากทำตามขั้นตอนดังกล่าว รับรองได้ว่าถูกต้อง และปลอดภัย อย่างแน่นอน และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ สำหรับผู้ขับขี่ คือ ควรพกพา สายพ่วงแบตเตอรี่ ติดไว้กับรถยนต์เสมอ เพื่อป้องกันการเกิด ปัญหาแบตเตอรี่หมด แบบฉุกเฉินได้ โดยสามารถพกพาได้อย่างสะดวก ไว้ที่บริเวณท้ายรถ
สิ่งที่สำคัญที่สุด ในการพ่วง แบตเตอรี่ ( Battery ) คือ ขั้นตอนในการต่อ และถอดขั้วแบตเตอรี่์ ที่ควรทำเป็น ระดับในการใช้ขั้วบวก และขั้วลบให้ถูกต้อง กับรถที่จะถูกใช้ด้วย โดยขั้นตอนในการถอด สามารถจำได้ง่าย ด้วยการถอดเป็นลำดับย้อนหลัง จากตอนที่ใส่พ่วง และต้องจำสีของแต่ละขั้วให้ดี อีกด้วย เพราะการต่อขั้วที่ผิด หรือมีลำดับการต่อที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ แบตเตอรี่รถยนต์ เกิดระเบิดได้
ดังนั้น ผู้ขับขี่ จึงควรหมั่นตรวจสภาพแบตเตอรี่ โดยดูจากที่วัดของ แบตเตอรี่ หรือใช้ที่วัดความถ่วงจำเพาะ ( Hydrometer ) โดยดูจากสีของที่วัด จะบ่งบอกค่าได้ ดังนี้
สีเขียว แปลว่า ประจุไฟฟ้าเต็ม
สีน้ำตาล / สีดำ แปลว่า ประจุไฟฟ้าหมด ควรทำการชาร์จแบตเตอรี่
สีเหลือง แปลว่า สมควรเปลี่ยนแบตเตอรี่
อ่านบทความเพิ่มเติม