YS Racing - พฤติกรรมการใช้รถ ที่ทำให้ รถพังเร็ว

เว็บซือขาย คนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ย่อมต้องการให้รถยนต์ของตน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และไม่ต้องซ่อมบ่อย แต่ก็มีหลายคนที่มี พฤติกรรมการใช้รถ ที่ไม่เหมาะสม ที่อาจทำให้ รถพังเร็ว ขึ้นได้ ซึ่งจะมีพฤติกรรมใดบ้าง มาดูกันครับ

YS Racing - พฤติกรรมการใช้รถ ที่ทำให้ รถพังเร็ว คนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ย่อมต้องการให้รถยนต์ของตน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และไม่ต้องซ่อมบ่อย แต่ก็มีหลายคนที่มี พฤติกรรมการใช้รถ ที่ไม่เหมาะสม ที่อาจทำให้ รถพังเร็ว ขึ้นได้ ซึ่งจะมีพฤติกรรมใดบ้าง มาดูกันครับ

พฤติกรรมการใช้รถ ที่ทำให้ รถพังเร็ว

พฤติกรรมการใช้รถ ที่ทำให้ รถพังเร็ว


คนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ย่อมต้องการให้รถยนต์ของตน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และไม่ต้องซ่อมบ่อย แต่ก็มีหลายคนที่มี พฤติกรรมการใช้รถ ที่ไม่เหมาะสม ที่อาจทำให้ รถพังเร็ว ขึ้นได้ ซึ่งจะมีพฤติกรรมใดบ้าง มาดูกันครับ

 

เหยียบคันเร่งทันทีหลังสตาร์ทรถ

 

การเร่งเครื่องแรง ๆ หลังจาก สตาร์ทรถได้ไม่นาน เป็นพฤติกรรมที่จะทำให้ เครื่องยนต์พังเร็วขึ้นได้ โดยที่คุณ ไม่รู้ตัว เนื่องจาก เมื่อเริ่มสตาร์ทรถใหม่ เครื่องยนต์ จะยังเย็นอยู่ เครื่องยังไม่อุ่น จึงไม่ควรเร่งเครื่องแรง เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ ยังไม่ได้ปรับสภาพ จึงทำให้ เครื่องพังเร็วได้ง่าย การเร่งเครื่องที่ถูกต้อง ควรทำ หลังจากสตาร์ทรถ จนอุ่นเครื่องไว้แล้ว อย่างน้อย 5 นาที จึงจะสามารถ เร่งเครื่องแรงได้

 

ปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อย

 

แน่นอนว่า ในการขับขี่รถยนต์ รถจำเป็นต้องใช้ น้ำมัน ในการขับเคลื่อนตัวรถ หากผู้ใช้รถ ปล่อยให้น้ำมันเครื่องน้อย แล้วค่อยเติมน้ำมันเป็นปะจำ จะส่งผลเสียต่อให้ เครื่องยนต์มีเสียงดัง จากการเสียดสี ระหว่าง แหวนลูกสูบ และผนังกระบอกสูบ เพราะมีน้ำมันหล่อลื่น ไม่เพียงพอ หากปล่อยไว้นาน จะทำให้ลูกสูบติด หรือชาร์จละเลย จนต้องเปลี่ยนใหม่ เสียค่าซ่อมไปอีก

 

นอกจากนี้ ยังรวมถึง น้ำมันเบรก , น้ำมันคลัลต์ , น้ำมันพวงมาลัย และน้ำยาของหม้อน้ำ ที่ผู้ใช้รถควรหมั่นเปิดฝากระโปรงรถ และเช็คถ้วยของ น้ำมันเหล่านี้ อย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถดูระดับของปริมาณน้ำมันได้ง่าย หากน้ำมัน อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า คำว่า Min ก็สามารถ เติมน้ำมันที่ขาด ได้ด้วยตนเอง และการเติมต้องเติมให้พอดีกับ คำว่า Max เป็นระดับที่เหมาะสม

 

ไม่ชะลอความเร็ว เมื่อถนนไม่เรียบ

 

การขับรถบน เส้นทางที่มี ความขรุขระ เจอลูกระนาด เจอหลุมบ่อ หรือเนินเต่า หากคุณขับโดนไม่ชะลอความเร็ว เมื่อผ่านสิ่งเหล่านี้ รถยนต์ จะยังไม่ได้รับการปรับตัว จึงทำให้ใต้ทางรถของคุณ ในส่วนระบบช่วงล่างของรถ เช่น โช๊คอัพ, สปริง, ลูกหมาก, ปีกนก เป็นต้น  ได้รับแรงกระทบ กับพื้นถนน ลูกนาด หรือ หลุมบ่อ ได้ง่าย เป็นสาเหตุที่ทำให้ รถยิ่งพังเร็วขึ้น ผู้ใช้รถ จึงควรชะลอความเร็ว เมื่อขับผ่าน อุปสรรค บนถนนเหล่านี้

 

ดับเครื่องแล้วเปิดแอร์ทิ้งไว้

 

หลายคน อาจจะเคยเผลอ ลืมปิดแอร์ หลังจากที่ดับเครื่องไปแล้ว ซึ่งหากทำเป็นประจำ จะส่งผลเสียในระยะยาวได้ เนื่องจาก เมื่อกลับมาสตาร์ทรถ จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ ทำงานทันที เพราะเวลา เริ่มสตาร์รถ เป็นการเรียกช่วงรอบเครื่องยนต์พุ่งขึ้นสูง จึงต้อง เพิ่มแรงดัน น้ำมันไปหล่อเลี้ยง ชิ้นส่วนต่าง ๆ ทำให้มี การกระชากของ คอมเพรสเซอร์แอร์ ส่งผลให้ แอร์รถพังเร็วขึ้นได้

 

ใช้เกียร์ P ขณะรถติด

 

ในขณะที่รถติด หรือรอไฟแดง หลายคนอาจติดนิสัย เข้าเกียร์ P ขณะที่จอดรถชั่วคราว ซึ่งการเข้าเกียร์ P จะทำให้ชุดเกียร์ทำงาน เมื่อใช้งานบ่อย ๆ จะทำให้ชุดเกียร์เสื่อมได้เร็ว จึงควรใช้เกียร์ P เฉพาะตอนที่จอดรถสนิทเท่านั้น ส่วนในตอน จอดรถนิ่ง หรือติดไฟแดง ควรใช้เกียร์ D และเหยียบเบรก ให้เป็น การจอดสลับเคลื่อนที่ หรือติดไฟแดงระยะสั้น แต่หากติดต้องจอดนานกว่า 2 นาที  ควรใช้เกียร์ N และใส่เบรกมือ กันรถไหลด้วย

 

หากผู้ใช้รถ ทำพฤติกรรมเหล่านี้เป็นประจำ ควรปรับเปลี่ย นพฤติกรรมเหล่านี้ ในทันที เพื่อช่วยรักษาเครื่องยนต์ และส่วนอื่น ๆ ของรถ ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น และไม่เสี่ยงเกิดอันตราย ขณะขับขี่ได้

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รถยนต์ ถูกน้ำท่วม ต้องจัดการอย่างไร?

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยาก แต่งรถยนต์