เชื่อว่าทุกคนที่เคยขับรถ ต้องเคยพบเจอกับ ปัญหา ในการใช้รถ ซึ่งปัญหาที่เกิดส่วนใหญ่ มักเกิดมาจาก เครื่องยนต์ คุณจึงควรรู้ สาเหตุที่ทำให้ เครื่องยนต์มีปัญหา เพื่อนำไปสู่การรับมือ และป้องกันปัญหาในการใช้รถได้
การขับรถ จะเริ่มขึ้นได้ เมื่อผู้ขับรถ ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อทำให้ เครื่องยนต์รถ สามารถเผาไหม้ น้ำมัน หรือเชื้อเพลิง และนำไปสู่ การเคลื่อนรถ ไปยังสถานที่ที่เราต้องการได้ แต่หากเกิดปัญหากับ เครื่องยนต์ รถของเรา ก็ถือเป็น ปัญหาใหญ่ต่อการขับขี่รถได้ ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับ เครื่องยนต์ ที่มักเกิดขึ้น และสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น มีดังต่อไปนี้
1. เครื่องยนต์สะดุด
หากสตาร์ทรถแล้ว เครื่องยนต์ สามารถขับได้ แต่เครื่องยนต์เกิดสะดุด หรือกระตุกเป็นระยะ ๆ โดยมีอาการ คือ เกิดการสะดุด ขณะขับขี่ เป็นช่วง ๆ ทำให้เกิด ความไม่ราบรื่น ในการขับรถได้ ซึ่งปัญหานี้ อาจเกิดขึ้นได้จาก ปัญหาเกี่ยวกับหัวเทียน ที่อาจเกิดการชำรุดขึ้น โดยวิธีแก้ คือ ต้องเปลี่ยนหัวเทียน ที่ชำรุด หรืออาจแค่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าหัวเทียน มีระยะห่างเกินไป ก็ต้องตั้งระยะของเขี้ยวหัวเทียนให้ได้ตามกำหนดเวลา ซึ่งให้ช่างตั้งให้ก็ได้
หากปัญหานี้ ไม่ได้เกิดจาก หัวเทียน อีกสาเหตุ ที่ทำให้ เครื่องยนต์สะดุด อาจเป็นเพราะ มีน้ำปนอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิง ในกรณีนี้ สามารถแก้ได้ด้วยการ ล้างคาบูเรเตอร์ ( Carburetor )หรืออาจต้องล้างถังน้ำมันเครื่องใหม่ เครื่องยนต์ก็จะไม่สะดุดเป็นช่วง ๆ อีกต่อไปได้
2. เร่งเครื่องไม่ขึ้น
หากทำการ สตาร์ทเครื่องรถติดแล้ว แต่เร่งเครื่องไม่ขึ้น อาจมีสาเหตุ มาจาก หม้อกรองอากาศอุดตัน โดยสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการถอดออกมา ทำความสะอาดให้ดี หรือหากใช้งานมานานแล้ว เหมาะสมแก่เวลา ก็ค่อยเปลี่ยน หม้อกรองใหม่ได้ แต่หาก หม้อกรองอากาศ ไม่ได้อุดตัน อาจเป็นเพราะ คุณตั้งไฟ อ่อนเกินไป หรือเกิดขัดข้อง ที่ข้อต่อคันเร่ง ควบคุมอากาศ ก็คงจะต้องให้ช่างปรับหม้อกรองอากาศให้ใหม่
3. เครื่องติดแต่ดับเมื่อเข้าเกียร์
เมื่อสตาร์ทเครื่องแล้ว เครื่องยนต์ก็ทำงาน แต่พอคุณเข้าเกียร์ปุ๊บ เครื่องจะดับปับเลยก็อาจเป็นเพราะผ้าเบรกค้างติดตาย ต้องแก้ไขด้วยการเอารถไปให้ช่างตรวจดูระบบเบรก อีกกรณีหนึ่ง อาจเป็นเพราะเขม่ามากในท่อไอเสีย คุณก็สามารถแก้ไขเองได้ด้วยการเคาะๆ ท่อไอเสีย แล้วแคะ ๆ แยง ๆ เอาเขม่าออกให้หมดจากท่อ หรือบางทีก็เกิดจากสาเหตุง่าย ๆ ก็คือ คุณดีงเบรกมือค้างไว้ นั่นเอง พอสตาร์ทรถแล้วเข้าเกียร์เครื่องจึงดับ คุณต้อง ตรวจตราให้เรียบร้อยว่าคุณปลดเบรกมือหรือยังด้วย
4. เกียร์เข้ายาก
เมื่อเข้าเกียร์แล้ว รู้สึกว่ามีเสียง หรือรู้สึกว่า เข้าเกียร์ได้ยากกว่าปกติ อาจเป็นไปได้ว่า การปรับแต่งก้านต่อเลื่อนผิดพลาด ต้องให้ช่างปรับแต่งให้ใหม่ แต่ถ้าเป็นเพราะคลัตช์มีสนิมจับอยู่ คุณก็สามารถล้างคลัตช์ให้สะอาด ด้วยน้ำมันเบนซิน เกียร์จะเข้าได้ง่ายขึ้น หรือลองเหยียบย้ำ ๆ ไล่ลมคลัตช์ ดูหลาย ๆ ครั้ง เพราะบางที่อาจมีอากาศอยู่ใน ระบบคลัตช์ ที่ใช้น้ำมันก็เป็นได้
5. เครื่องยนต์ติดเบา ๆ แล้วดับ
เมื่อสตาร์ทรถ เครื่องยนต์ติดแต่ติดเบา ๆ แล้วก็ดับไปเลยสาเหตุที่ ทำให้รถเกิดอาการอย่างนั้นก็มีอยู่ 2 ข้อด้วยกันคือหัวเทียนเสื่อม แน่นอนว่าคุณต้องเปลี่ยนใหม่ อีกข้อก็คือไอดีรั่ว คุณต้องให้ช่างดูให้และเปลี่ยนปะเก็นใหม่ ถ้าเป็นสาเหตุที่ เกิดจาก หน้าทองขาว ห่างเกินไปก็ ต้องแต่งหน้าทองขาวปรับ ให้เรียบร้อย
6. เครื่องติดแล้วดับ
เมื่อคุณสตาร์ทติดแล้ว แต่เครื่องดับไป อาจเกิดจาก สายแบตเตอรี่ อาจจะหลุด คุณต้องตรวจดูแล้วถอดออกมาเช็ดหรือใช้แปรงขัด ๆ สักนิด ก่อนใส่กลับเข้าไปดังเดิมแล้วก็ขันให้แน่น หรืออีกกรณีหนึ่ง อาจเป็นเพราะ น้ำมันเข้าคาบูเรเตอร์ไม่ทัน หากเป็นเช่นนี้ต้องลองปรับแต่งปั๊มน้ำมัน และคาบูเรเตอร์ซึ่งให้ช่างช่วยปรับให้ก็ได้ และยังเป็นไปได้ว่าสายไฟจาก คอยล์นั้น หลุดหลวม อันนี้คุณสามารถจัดสายไฟ ให้แน่นและใส่ยางครอบบังคับให้เรียบร้อย เครื่องก็จะไม่มีปัญหา
อ่านบทความเพิ่มเติม