ในช่วงนี้ที่เริ่มมีการ เดินทางท่องเที่ยว ได้มากขึ้นหลาย ๆ คนก็คงได้นำรถคันเก่งออกมาวิ่ง หลังจากที่ไม่ได้ใช้มานาน แต่ก่อนออกวิ่งเราอยากให้เพื่อน ๆ เช็คสภาพรถ กันก่อนนะคะ เพื่อป้องกัน อาการเร่งไม่ขึ้น แล้วเกิดอุบัติเหตุได้นะคะ

อาการเครื่องอืด เร่งไม่ขึ้นมีสาเหตุที่ไม่แน่นอน บางทีอาจเกิดจาก ความเสื่อมของอุปกรณ์ภายใน อย่างเช่น น้ำมันเครื่อง หัวเทียน คอยล์จุดระเบิด ที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่มาจากการละเลย และ ไม่ดูแลเครื่องยนต์ หรือ ไม่ได้เข้าเช็คสภาพรถตามระยะ ทำให้กระบวนการทำงาน ของรถไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

สิ่งที่ต้องตรวจเช็ค เพื่อไม่ให้เกิดอาการเร่งไม่ขึ้น สามารถดูตามนี้ได้เลย

1. หัวเทียน และ คอยล์จุดระเบิด

ทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็นตัวที่จุดระเบิด ให้เครื่องยนต์ให้รถวิ่งได้ เมื่อใช้ไปนาน ๆ มันก็ย่อมสึก เพราะต้องรองรับแรงระเบิดเป็นพัน ๆ ครั้งต่อวินาที เหมือนก้อนหินที่ถูกน้ำเซาะทุกวัน หากหัวเทียนเสื่อมสภาพ อาการที่จะสังเกต ได้อย่างชัดเจนเลย คือ เครื่องยนต์จะสตาร์ทติดยากขึ้น หรือ รถสั่นเบาถึงแรงมาก และ เร่งไม่ค่อยขึ้น หากรถสั่นถึงระดับแรงมาก ให้แนะนำเข้าศูนย์ที่ใกล้ที่สุด เพื่อเปลี่ยนทันที ไม่งั้นรถของคุณมีโอกาส ดับ ระหว่างวิ่งแน่นอน  ลองนึกภาพว่าคุณขับรถอยู่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วอยู่ ๆ เครื่องยนต์ดับดูสิ จะเกิดอะไรขึ้น 

2. ระบบกรองอากาศ

หลาย ๆ คนเห็นหัวข้อแล้วอาจงงขึ้นมาว่า ระบบกรองอากาศเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ความจริงในปกติแล้ว กระบานการจุดระเบิด ของเครื่องยนต์ จะใช้ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และ อากาศ ระบบกรองอากาศจะทำหน้าที่ กรองสิ่งแปลกปลอมทุกอย่าง ที่เครื่องยนต์สูบเข้าไป เพื่อให้ได้อากาศที่สะอาดที่สุด สำหรับการจุดระเบิด ทั้งนี้หากกรองอากาศอุดตัน จะทำให้อากาศถูกสูบเข้าไป ไม่เพียงพอกับการใช้ในการจุดระเบิด ทำให้ รถเร่งไม่ขึ้น เครื่องสั่น กินน้ำมันเชื้อเพลิงได้ค่ะ

หากระบบกรองอากาศชำรุด แน่นอนว่าจะเป็นช่องให้สิ่งแปลกปลอม หลุดเข้าไปในเครื่อง และ อาจไปอุดตันในเครื่องได้ ยิ่งอากาศแบบบ้านเรา ยิ่งหนักเลยค่ะ ทั้งฝุ่น ทั้งเศษขยะ ปลิวกันให้เต็มท้องถนนไปหมด

3. น้ำมันเชื้อเพลิง

น้ำมันเชื้อเพลิง ก็เป็นเช่นเดียวกับ ระบบกรองอากาศ เลยค่ะ คือ ส่วนประกอบที่ใช้ใน การจุดระเบิดเครื่องยนต์ และ หากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ก็จะทำให้เครื่องเกิดปัญหาได้ สำหรับสิ่งแปลกปลอม ที่พบมากที่สุดใน ถังน้ำมันเชื้อเพลิง คือ 

- น้ำ

- ไขมัน

ทั้ง 2 ตัวนี้ เกิดจากการใช้ พลังงานทดแทนก็ คือ แก๊สโซฮอล์ ( Gasohol ) และ ไบโอดีเซล ( Biodiesel ) ตามลำดับที่เราใช้กันอยู่ ในทุกวันนี้นั่นเองนอกจากจะทำให้ เครื่องเกิดปัญหาแล้ว ยังทำให้เกิดเชื้อรา แบคทีเรีย คราบสนิม ตามมาด้วยสิ่งเหล่านี้ จะเข้าไปอุดตันในทุกส่วน ของระบบเชื้อเพลิง เช่น ท่อทางเดินน้ำมัน หัวฉีดน้ำมัน กระบอกสูบ กรองน้ำมัน ฯลฯ จนเป็นสาเหตุให้เกิดสะดุด สะอึก เร่งไม่ขึ้น จนถ้าหนักมาก ๆ น้ำมันเชื้อเพลิงไหลผ่านไม่ได้ เครื่องจะดับไปในที่สุด ถ้าพอจะจำกันได้ มีอยู่หลายข่าวเลยที่เสนอว่า มีปั้มเอาน้ำมาผสมน้ำมันขาย หรือ ถังน้ำมันไม่ได้คุณภาพทำให้น้ำซึมเข้าไป รวมไปจนถึงภาพที่มีคนนำรถไปซ่อม เพราะสตาร์ทไม่ติด ปรากฏว่าถอดถังน้ำมันออกมาดู ถึงกับช็อคเลยทีเดียว ว่าทำไมน้ำปริมาณเท่าอ่างใบใหญ่ ๆ ถึงอยู่ในถังน้ำมันได้ จนเป็นคำถาม สะเทือนสังคม อยู่พักนึงเลยทีเดียว

วิธีแก้คือ

- เข้าศูนย์บริการ ถอดถังน้ำมันมาล้าง

- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเชื้อเพลิง ทั้งระบบสำหรับ แก๊สโซฮอล์ ( Gasohol ) และ ไบโอดีเซล ( Biodiesel )

4. หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง

หัวฉีด คือ ส่วนที่ปล่อยน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปผสมกับอากาศ ก่อนที่จะจุดระเบิดในเครื่องยนต์ บางครั้งเราอาจจะเคยได้ยินว่า รถเร่งไม่ขึ้น วิ่งไม่ออก ลองไปล้างหัวฉีดดูสิ ซึ่งหัวฉีดเองก็คล้ายกับระบบกรองอากาศ หากเกิดการอุดตัน จะทำให้ไม่สามารถ ปล่อยน้ำมัน ออกมาได้เพียงพอ กับปริมาณที่ต้องใช้ ทำให้เรารู้สึกว่า รถเร่งไม่ขึ้น จึงเหยียบคันเร่งขึ้นอีก เมื่อรอบมากขึ้น การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงก็มากขึ้น ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ รถกินน้ำมัน มากกว่าปกติ

วิธีการทำความสะอาดหัวฉีดมี 2 วิธีคือ

- นำรถเข้าศูนย์บริการ ในศูนย์บางแห่งจะมีเครื่องล้าง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง แสตนด์บายไว้อยู่

- ใช้ผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดเชื้อเพลิงทั้งระบบ แต่อย่าลืมว่าต้องเฉพาะสำหรับ พลังงานทดแทน ด้วย ไม่เช่นนั้นกลายเป็นจ่าย 100 ได้แค่ 50 นะคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับข้อมูลที่เราได้รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ กับ การเช็คสภาพรถ เพื่อป้องกัน อาการเร่งไม่ขึ้น หวังว่าจะเป็นความรู้ที่ดี ในการดูแลรถคันโปรดของเพื่อน ๆ ได้นะคะ บทความหน้า จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะอะไร สามารถมาติดตามกันได้ที่ ysracingshop.com นะคะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

ความสำคัญ ของ การเปลี่ยนน้ำมันเบรก

เบาะหนัง เบาะผ้า มี ข้อดี ข้อเสีย และ การดูแล รักษาความสะอาด อย่างไร