ยางรถยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่
เป็นเรื่องธรรมดาของการใช้รถ เมื่อรถยนต์ผ่าน การใช้งานมาในระยะหนึ่งแล้ว ผู้ขับขี่ ควรทำการเปลี่ยน ยางรถยนต์ และหลายคน อาจจะยังไม่ทราบถึง เวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนยางรถ วันนี้เราจะมาแนะนำกัน
ยางรถยนต์ เป็นส่วนที่สัมผัสอยู่กับ พื้นถนน อยู่ตลอดเวลา ขณะที่เราขับขี่รถบนท้องถนน ซึ่งหากเกิดปัญหากับ ยางรถยนต์ อาจทำให้รถของคุณ เสียศูนย์ในการควบคุมรถ และเกิดอุบัติเหตุได้ในที่ส่วน ผู้ขับขี่รถ จึงควรหมั่นตรวจเช็ค สภาพยางของรถยนต์ อยู่สม่ำเสมอ ตามวิธี ดังต่อไปนี้
เช็คดอกยาง
ยางรถยนต์ทุกชนิด ล้วนมีดอกยาง เป็นตัวต้านแรงเสียดทาน กับพื้นถนน เพื่อให้รถยึดเกาะกับถนนได้ หากคุณตรวจเช็คดูว่า ดอยยางรถของคุณเริ่มจางไปกลับเนื้อยาง ก็หมายความว่า คุณถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน ยางรถยนต์ได้แล้ว เพราะหากใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ อาจมีปัญหารถไม่ติดกับพื้นถนน โดยเฉพาะ การขับในทางโค้ง และเกิดอุบัติเหตุได้
เช็คขนาดของยาง
หากคุณสังเกตได้ว่า ยางของคุณมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ บริเวณแก้มยาง นี่เป็นอาการของยางที่เรียกได้ว่า "ยางบวม" ซึ่งเป็นสัญญาณที่อันตรายมาก เพราะอาจทำให้ ยางระเบิดได้ หากพบว่า ยางของรถคุณบวม ควรทำการ เปลี่ยนยางรถยนต์ โดยด่วน หรือในกรณีที่ยางรั่ว ยางแบน และไม่สามารถ เติมลมลมยางเข้าได้แล้ว ก็ควรทำการเปลี่ยนยาง เช่นกัน
เช็คเนื้อยาง
ถึงแม้ว่า ยางที่ใช้ทำ ยางรถยนต์ จะมีความทน แข็งแรงกว่า ยางชนิดอื่น ๆ แต่ด้วยคุณสมบัติของยางนั้น จะยังคงมี ความยืดหยุ่น หากคุณตรวจเช็คว่า เนื้อยางของคุณแข็ง ไม่สามารถนำเล็บไปจิกลงได้ นี่เป็นอีกสัญญาณว่า ยางรถยนต์ของคุณเสื่อมสภาพแล้ว
ทั้ง 3 ปัจจัยของ ยางรถยนต์ เหล่านี้ ควรสามารถ เช็คได้ง่าย ด้วยตนเอง จากการสังเกต และสัมผัส เพียงใช้เวลาไม่กี่นาที ก็สามารถตรวจเช็คสภาพของ ยางรถยนต์ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ได้ครบถ้วน จึงเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ ไม่ควรละเลย และหมั่นตรวจเช็ค ยางรถยนต์ ทุกครั้งก่อนการขับขี่
หากเช็คสภาพ ยางรถยนต์ ทั้ง 3 ปัจจัยนี้แล้วไม่พบ ความผิดปกติใด ก็สามารถเปลี่ยน ยางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยก่อนได้ หากคุณใช้ขับรถ ในระยะทางที่ มากกว่า 50,000 กิโลเมตรไปแล้ว หรือทำการ สลับยางทุก ๆ 10,000 - 15,000 กิโลเมตร
ถ้าหาก คุณไม่ทราบว่า ขับรถไป มากกว่า 50,000 กิโลเมตร หรือไม่ ก็สามารถเช็คได้จาก อายุการใช้งานของยางรถยนต์ และโดยปกติแล้ว ผู้ผลิต ยางรถยนต์ ส่วนใหญ่ จะรับประกันอายุยางอยู่ที่ 4 - 6 ปี หากคุณใช้ยางรถยนต์ไปมากกว่า 5 ปีแล้ว ก็ถึงเวลาควรเปลี่ยน ยางรถยนต์ สักที โดยอายุของ ยางรถยนต์ สามารถดูได้จาก ตัวเลข 4 หลักที่ประทับอยู่บนแก้มยาง โดยเลข 2 ตัวเลข จะเป็นสัปดาห์ที่ผลิต และเลข 2 ตัวหลัง จะเป็น ค.ศ.ที่ผลิตยางรถยนต์
การทราบ อายุการใช้งานของ ยางรถยนต์ และการหมั่น ตรวจเช็คสภาพของ ยางรถยนต์ อยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้ เกิดความมั่นใจ ความปลอดภัย ในการขับขี่ และหลีกเลี่ยงการเกิด อุบัติเหตุที่อาจเกิดจาก ยางรถยนต์ได้
อ่านบทความเพิ่มเติม