แบตเตอรี่รถยนต์ ( Battery ) เป็นสิ่งที่สำคัญ มากพอ ๆ กับน้ำมันเชื้อเพลิง หากแบตเตอรี่รถยนต์ ของเราใกล้จะหมด จะมีอาการอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาดูกัน กับ 5 สัญญาณ แบตเตอรี่ใกล้หมด
แบตเตอรี่รถยนต์ ( Battery ) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ สำหรับรถยนต์ เพราะ แบตเตอรี่ ( Battery ) เป็นตัวที่ช่วย ในการจุดระเบิดภายในห้องเครื่องรถยนต์ เพื่อทำให้ รถยนต์ของเรา สตาร์ทเครื่องยนต์ติด และ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ ( Battery ) ยังทำให้ ระบบ และ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ภายในรถยนต์ของเรา ทำงานได้อย่างเป็นปกติ เช่น เครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ เครื่องเล่นเพลง การควบคุมต่าง ๆ ที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ และ ระบบต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอกกรถ เช่น ไฟหหน้า ไฟเลี้ยว กล้องติดรถยนต์
หาก แบตเตอรี่ ( Battery ) รถยนต์ของเรา ใกล้จะหมด เราสามารถเช็คได้จากอาการเหล่านี้
1. รถยนต์สตาร์ทติดยาก
เมื่อเราสตาร์ทรถยนต์ แล้วรู้สึกว่า รถของเรา สตาร์ทติดยาก อาการเช่นนี้ เป็นสัญญาณ ที่บ่งบอกว่า รถยนต์ของเรา มีแบตเตอรี่ ( Battery ) ที่ใกล้จะหมด หากปล่อยเอาไว้ให้แบตเตอรี่ ( Battery )หมดก็จะทำให้รถของเรา สตาร์ทไม่ติด วิธีแก้คือ สามารถซื้อแบตเตอรี่ ( Battery ) มาเปลี่ยน เพื่อให้รถของเรา สามารถ สตาร์ทติด และ เคลื่อนที่ต่อไปได้
หากมีการเช็คแบตเตอรี่ ( Battery ) แล้วพบว่า แบตเตอรี่ ( Battery ) ยังมีไฟฟ้าเต็มอยู่ แต่รถของเรา สตาร์ทไม่ติด อาจจะเป็นเพราะว่า ไดชาร์จ มีปัญหา โดยสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการพ่งแบตเตอรี่ ( Battery ) เพื่อสตาร์ทรถ แล้วลองขับดู
2. ไฟสว่างน้อยลง
เนื่องจากประจุไฟฟใน แบตเตอรี่ ( Battery ) ไม่เพียงพอ ข้อนี้สามารถสังเกตได้จาก คนที่ขับรถตอนกลางคืน บ่อย ๆ หรือ เช็คได้จากตอนกลางคืน แล้วลองสังเกต ที่ไฟหน้ารถ ว่ารถของเรานั้น มีความสว่าง ที่ลดลงหรือเปล่า หากไฟหน้ารถของเรา มีความว่างลดลง นั่นก็แสดงว่า รถของคุณอาจจะมีอาการ แบตเตอรี่ ( Battery ) ใกล้จะหมด
3. กระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
กระจกไฟฟ้า ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่เราสามารถสังเกตได้ หากแบตเตอรี่ ( Battery ) รถยนต์ของเรา ใกล้จะหมด หรือ มีแบตเตอรี่ ( Battery ) ที่ไม่เพียงพอ เราสามารถสังเกตได้จาก การที่มอเตอร์ของ กระจกไฟฟ้าทำงานได้ช้าลง หรือ มีอาการหนืด หรือ ในบางครั้ง กระจกไฟฟ้า อาจจะทำงานได้ข้างเดียว
4. ระบบไฟภายในรถ เริ่มทำงานผิดปกติ
อาการ ระบบไฟภายในรถ เริ่มทำงานผิดปกติ สามารถสังเกตได้จาก ไฟที่อยู่ภายในห้องโดยสาร ไฟหน้าจอ เครื่องเสียง และ ไฟตามจุดต่าง ๆ เช่น ไฟเลี้ยว ไฟท้าย รวมไปถึง การกดแตรรถยนต์ หากเรากดแล้ว แตรมีเสียงเบา แสดงว่า ไฟจากแบตเตอรี่ ( Battery ) ของเราไม่เพียงพอ หรือ ใกล้หมด
5. เช็คได้จากอายุการใช้งานของ แบตเตอรี่ ( Battery )
อายุการใช้งานของ แบตเตอรี่ ( Battery ) โดยทั่วไป จะมีอายุการใช้งาน อยู่ที่ 1.5 – 2 ปี ( สำหรับรถที่ไม่ได้มีการติด อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ) โดยเราสามารถ ดูได้ขากฉลากที่แปะ เอาไว้ตรงแบตเตอรี่ ( Battery ) แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ ของแต่ละคนด้วย การที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ หลาย ๆ วัน หรือ ขอดทิ้งเอาไว้หลาย ๆ เดือน ก็ส่งผลให้ แบตเตอรี่ ( Battery ) ของเราหมด และ เสื่อมสภาพได้เช่นกัน
หากรถของเรา ไม่มีการใช้งาน ก็ควรที่จะสตาร์ทรถ เพื่อให้แบตเตอรี่ ( Battery ) ของเราได้มีการทำงาน หรือ ทำการติดตั้ง การตัดไฟ เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่ ( Battery ) ของเราหมด
ดังนั้น หากรถของคุณ มีอาการเหล่านี้ รวมถึงอายุของแบตเตอรี่ ก็ใช้มานานแล้ว หรือ ใกล้ครบรอบ ที่จะต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ( Battery ) ก็ให้เราเปลี่ยนแบตเตอรี่ ( Battery ) ลูกใหม่ เพื่อให้รถของเรา มีการใช้งานได้อย่าง ปกติ
อ่านบทความเพิ่มเติม