YS Racing - เทคนิค การใช้ รถยนต์ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้

เว็บซือขาย น้ำมันแพง เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับ ผู้ใช้รถทุกประเภท ที่สามารถ เกิดขึ้นบ่อย ๆ อย่างที่ คาดการณ์ได้ยาก และก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกับ ปัญหานี้ไปได้ วันนี้ ทางเรา จึงขอมาแนะนำ เทคนิค การใช้ รถยนต์ ให้ประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้ ไปดูกันเลย

YS Racing - เทคนิค การใช้ รถยนต์ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้ น้ำมันแพง เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับ ผู้ใช้รถทุกประเภท ที่สามารถ เกิดขึ้นบ่อย ๆ อย่างที่ คาดการณ์ได้ยาก และก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกับ ปัญหานี้ไปได้ วันนี้ ทางเรา จึงขอมาแนะนำ เทคนิค การใช้ รถยนต์ ให้ประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้ ไปดูกันเลย

เทคนิค การใช้ รถยนต์ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้

เทคนิค การใช้ รถยนต์ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้


น้ำมันแพง เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับ ผู้ใช้รถทุกประเภท ที่สามารถ เกิดขึ้นบ่อย ๆ อย่างที่ คาดการณ์ได้ยาก และก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกับ ปัญหานี้ไปได้ วันนี้ ทางเรา จึงขอมาแนะนำ เทคนิค การใช้ รถยนต์ ให้ประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้ ไปดูกันเลย

เทคนิค การใช้ รถยนต์ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ที่คุณก็ทำเองได้

สถานการณ์ ในช่วงนี้ ที่ประเทศได้มี มาตราการ คลายล็อคดาวน์ มากขึ้น และเตรียมพร้อมกับ การเปิดประเทศ ทำให้คนในประเทศ ได้ออกมา ใช้ชีวิตนอกบ้าน กันมากยิ่งขึ้น รวมไปถึง ผู้ที่ใช้ รถยนต์ ก็ออกมาเดินทางได้มากขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ ความต้องการน้ำมัน มากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลทำให้ น้ำมันราคาแพงขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งนี้ พฤติกรรม ในการใช้รถ ของผู้ขับขี่ ก็มีส่วนทำให้ ประหยัดน้ำมัน ของรถได้ ที่คุณสามารถเริ่มทำได้ด้วยตนเอง ดังนี้

 

1) ตรวจสอบแรงดันลมยาง

การเติมลมยาง ที่เหมาะสมสามารถ เพิ่มระยะทาง ในการขับขี่ได้มากขึ้น ถึง 3.3% และช่วยให้ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนานขึ้น ยางที่มีลมยางอ่อน อาจทำให้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เพิ่มสูงขึ้น 0.3% สำหรับ ทุกหนึ่งปอนด์ ต่อตารางนิ้ว ของความดันลมยาง ที่ตกลงทั้งสี่ล้อ ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบลมยาง ผู้ขับขี่ไม่ควรตรวจสอบแค่จาก ในระบบเพียงอย่างเดียว แต่ควรตรวจเช็คสภาพลมยา งด้วยอุปกรณ์วัดลมยางที่ดี อย่างน้อยเดือนละครั้ง และหากต้องการ ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือ การใช้งานรถยนต์ของคุณ

 

2) ปรับตั้งเครื่องยนต์อย่างถูกต้อง

สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ หรืออีพีเอ ( Environmental Protection Agency -EPA ) เผยว่า เครื่องยนต์ ที่มีการปรับตั้งที่ถูกต้อง จะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น ประมาณ 4% นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญ เช่น เซ็นเซอร์วัด ปริมาณออกซิเจน ทำงานผิดปกติ จะสามารถช่วย เพิ่มระยะทาง ในการขับขี่ได้มากขึ้น 40% และผู้ขับขี่ จึงไม่ควรละเลย สัญญาณไฟเตือน ให้นำรถเข้าไปตรวจสอบ

 

3) แก้ไขปัญหาสิ่งอุดตัน

หากเครื่องกรองอากาศของรถ เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกต่าง ๆ จะทำให้ เครื่องยนต์ของรถ ทำงานอย่างหนักได้ และสิ่งแปลกปลอม อาจทำลายเครื่องยนต์ ให้เสื่อมลงเร็วขึ้นด้วย ผู้ขับขี่ จึงควรหมั่นตรวจเช็คไส้กรอง หากมีปัญหาอุดตัน ให้ทำการ เปลี่ยนไส้กรอง จะช่วยเพิ่มการประสิทธิภาพ ในการประหยัดน้ำมันขึ้น 14% ตามข้อมูลของ สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ หรืออีพีเอ ระบุว่า ในรถยนต์สมัยใหม่ การเปลี่ยน ไส้กรองที่อุดตัน และสกปรก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ให้รถยนต์มีการเร่งความเร็ว ที่ดีขึ้นได้

 

4) เลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม

การใช้น้ำมันเครื่อง ที่เหมาะสมกับรถยนต์ จะช่วยลดการเสียดสี ของเครื่องยนต์ เพราะการเสียดสีนั้น จะทำให้เครื่องยนต์ทำงาน ได้ยากขึ้น ดังนั้น การใช้น้ำมันเครื่อง ตามที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำ จะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1 - 2%

 

5) นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถยนต์

การบรรทุก สัมภาระที่มากไป ทำให้รถยนต์ของคุณ ต้องใช้กำลัง และสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ในการขับเคลื่อนเพิ่มมากขึ้น สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ หรืออีพีเอ ระบุไว้ว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา 45 กิโลกรัม จะทำให้ประสิทธิภาพ ในการช่วยประหยัดน้ำมันลดลง 2% และอาจจะลดลงมากยิ่งขึ้น สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก โดยการบรรทุกของหนักบนราวบนหลังคารถยนต์จะทำให้ประสิทธิภาพ ในการประหยัดน้ำมัน ลดลงได้ถึง 5% น้ำมันประมาณ 1 ใน 4 ของน้ำมันเชื้อเพลิง จะมีการถูกเผาผลาญ เมื่อรถยนต์ต้องต้านกับแรงลม ดังนั้น เมื่อรถยนต์มีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาก็จะทำให้การประหยัดน้ำมันลดลง นั่นเอง

 

6) ขับรถยนต์ให้ช้าลง

การขับรถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า จะใช้น้ำมัน มากกว่า การรักษาความเร็วเพื่อให้คงที่ ควรเหยียบคันเร่งอย่างนุ่มนวล เมื่อออกจากทางแยก หรือตรงสัญญาณไฟจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงการเร่งรถยนต์อย่างรวดเร็ว การใช้ความเร็วที่มากเกินไป และการเบรกรถอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้การประหยัดน้ำมันนั้นลดลง 33% บนทางหลวง และลดลง 5% สำหรับการขับรถภายในเมือง โดยการขับรถที่ความเร็ว 80 – 90 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะช่วยทำให้ ประหยัดน้ำมันได้ 10 - 15% ซึ่งประหยัดมากกว่ากว่าการขับด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตร / ชั่วโมง โดยตามข้อมูลทาง ทรัพยากรธรรมชาติของ ประเทศแคนาดา ( Natural Resources Canada ) ความเร็วที่จะช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุด สำหรับรถยนต์ส่วนมาก จะอยู่ระหว่าง 50-80 กิโลเมตร / ชั่วโมง

 

ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเทคนิคง่าย ๆ ในการใช้ รถยนต์ ให้ประหยัดน้ำมัน ที่คุณเองก็สามารถ ทำตามได้เลย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เคล็ดลับสำหรับมือใหม่ใน การรักษารถของคุณให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยม

ทำไม การบำรุงรักษารถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้มีคำตอบ