เบรกถือว่าเป็นชิ้นส่วน ที่สำคัญอย่างมาก ของรถยนต์ ถือเป็นหัวใจหลัก ๆ สำหรับรถยนต์เลยก็ว่าได้ ถ้าเราดูแล และบำรุงรักษาอย่างดี ก็จะทำให้เบรกรถอยู่กับรถยนต์ ยาวนานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังช่วยให้คุณขับขี่รถอย่างปลอดภัย และลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้อีกด้วย ในบทความนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับปัญหาของเบรกรถยนต์ และวิธีดูแลรักษา เบรกรถยนต์มาฝากกัน

อาการที่บ่งบอกว่าเบรกรถยนต์มีปัญหา

1. เบรกมีเสียงดัง

ขณะขับรถเหยียบเบรกแล้วเบรกมีเสียงดังเอี๊ยด ๆ คล้ายเสียงหวีด บางคันก็มีเสียงดังครืด ๆ หรือเสียงดังกึก ๆ เหมือนเสียงโลหะครูดกับอะไรสักอย่าง อย่าเพิ่งกังวลไป เรามีวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์อาการเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ก่อนจะนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุดต่อไป 

• มีสิ่งแปลกปลอมเกาะที่จาน หรือผ้าเบรก การใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างการขับรถลุยน้ำ ลุยโคลน อาจทำให้สิ่งสกปรก เข้าไปเกาะในจานเบรก หรือผ้าเบรกได้ ทำให้เวลาเหยียบเบรกแล้วมีเสียงหอนดังยาว ๆ อาการดังกล่าวไม่เป็นอันตราย แต่ก่อให้เกิดความน่ารำคาญ หากใช้ไปสักพักแล้วยังไม่หาย ควรไปให้ช่างแก้ตรวจเช็คและแก้ไขให้

• ผ้าเบรกหมด หรือผ้าเบรกสึก เมื่อคุณเหยียบเบรกแล้วเกิดเสียงดังครืด ๆ หรืออี๊ด ๆ เหมือนเสียงของแข็งเสียดสีกับจานเบรก เป็นสัญญาณเตือนว่าผ้าเบรกใกล้จะหมดแล้ว ควรรีบนำรถเข้ารับบริการ เพื่อเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ หากปล่อยไว้นานจนผ้าเบรกหมด นอกจากจะทำให้จานเบรกเสียหายไปด้วย หรือทำให้รถเบรกไม่อยู่ จนอาจเกิดอุบัติเหตุ
• จานเบรกเป็นร่อง จานเบรกเมื่อผ่านการใช้งานมาได้สักระยะ ผิวสัมผัส จะเกิดการเสียดสีกับผ้าเบรก จนเกิดเป็นร่อง และเมื่อผิวสัมผัส ของจานเบรกไม่สม่ำเสมอ เวลาเหยียบเบรก ผ้าเบรกจะจับกับจานที่ไม่เรียบ ก็จะเกิดเสียงดัง วิธีแก้ไข ควรเจียรจานเบรก เมื่อมีรอยเหล่านั้น ให้เรียบ
• คราบสนิมจากการขับรถลุยน้ำ หลังจากขับรถลุยน้ำ หรือหลังล้างรถใหม่ ๆ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เกิดเสียงดัง เพราะผ้าเบรกอาจเปียกน้ำหรือเลอะคราบสกปรกต่าง ๆ ขณะที่เราเหยียบเบรก เป็นเสียงอี๊ด ๆ เอี๊ยด ๆ วิธีแก้ แค่ย้ำเบรกแบบถี่ ๆ 2 - 3 ครั้ง เพื่อไล่ความชื้นออกจากผ้าเบรก เสียงดังก็จะค่อย ๆ ลดหายไปเอง

 2. เบรกแตก

เบรกแตก คืออาการ เหยียบเบรกแล้ว แป้นเบรกจม จนกระทบกับพื้นรถ หรือนิ่มมาก ๆ ก่อนแล้วจมลงติดพื้น เมื่อเหยียบเบรก แล้วรถยังคงวิ่งที่ความเร็วเท่าเดิม เหมือนไม่มีเบรก สาเหตุมาจากอะไรบ้าง

• เกิดจากรั่วของน้ำมันเบรก เช่น สายอ่อนเบรกแตก ท่อแป๊ปเบรกแตก หรือน้ำมันเบรกรั่วซึมมาเป็นเวลานาน   ลูกยางแม่ปั๊มเบรก หรือแม่ปั๊มเบรกเก่า เสียหายจนน้ำมันเบรกรั่วไหลออกจนหมด
• ผ้าเบรกหมด เป็นไปได้บ่อยครั้ง เวลาที่ผ้าเบรกหมดนาน ๆ และยังปล่อยไว้ ไม่ได้รับการเปลี่ยน ผ้าเบรกจะบางมาก จนหลุดออกจากฝักก้ามปูเบรก จะทำให้ลูกสูบเบรกแตกทันที
• ส่วนประกอบในระบบหลวม เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น สากแป้นเบรก ไขไม่แน่นหลุดเกลียว หรือไม่ได้ใส่สลักล็อคไว้ น็อตยึดขาเบรกหลุด ฝักเบรก หรือคาริบเปอร์เบรกยึดไม่แน่น และส่วนประกอบต่าง ๆในระบบเบรกประกอบไม่แน่น
• สายอ่อนเบรกแตก สายอ่อนที่เก่ามาก ๆ จะเกิดอาการบวม เวลาปกติก็ดูดี แต่พอเหยียบเบรกพองเหมือนลูกโป่ง เวลาเหยียบเบรกเบา ๆ แรงดันน้ำมันเบรกต่ำก็รู้สึกปกติ แต่พอเวลาเหยียบเบรกกะทันหันอย่างแรง สายอ่อนเบรกรับแรงดันไม่ไหว จึงแตกออก และอาจเกิดจากก การติดตั้งสายอ่อนเบรกไม่ดี เสียดสีกับล้อ และยาง หรือเสียดสีกับ ระบบช่วงล่างของรถ

3. เบรกหมด

เบรกหมด คือ อาการเบรกแล้วเกิดเสียงดัง เหมือนเหล็กสีกันเอง เบรกลื่น ๆ เป็นอาการของเวลาที่ผ้าเบรกหมด ผ้าเบรกบางรุ่น จะมีส่วนที่เป็นตุ่มโลหะมาแตะกับจานเบรกเพื่อให้เกิดเสียงดัง เป็นอาการส่งสัญญาณเตือน หรือ มีไฟโชว์ที่แผงหน้าปัด ต้องรีบเปลี่ยน เพราะจะทำให้ผ้าเบรก สีกับจานเบรก จนจานเบรกเสียหายจนต้องเปลี่ยนจานเบรกไปด้วย

4. เบรกสั่น

เบรกสั่น คือ อาการที่เหยียบแล้วแป้นเบรกเกิดอากาสั่นขึ้น ๆ ลง ๆ รู้สึกได้ด้วยเท้า รถที่เบรกสั่นมาก ๆจะรู้สึกสั่นมาถึงพวงมาลัย หรือเวลาเหยียบเบรก จะเกิดอาการสั่นไปทั้งคัน สาเหตุเกิดจากจานเบรกเกิดการคดงอ เพราะการใช้งานที่หนักหน่วงเกินไป เช่น การลุยน้ำ จานเบรกที่ร้อนจัด เวลาเจอน้ำมักจะบิดตัวได้ง่าย ลูกปืนล้อหลวม น็อตล้อหลวม  ผ้าเบรกสึกหรอ อาการนี้เกิดได้ทั้งระบบดิสเบรก และดรัมเบรก

เคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานเบรก

• ไม่ควรขับรถไปเหยียบเบรกไป หรือเหยียบเบรกบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้ผ้าเบรกหมดเร็ว แล้วยังอาจเกิดความร้อนสะสมในระบบเบรกจนเบรกไม่อยู่ได้
• ไม่ควรขับรถลุยน้ำโดยไม่จำเป็น เพราะหากจานเบรก มีความร้อนสูงจากการโดนน้ำ แล้วเหยียบเบรกในทันทีอาจทำให้จานเบรกเสียรูปได้
• หมั่นตรวจสอบระบบเบรกอยู่เสมอ เพื่อตรวจเช็กความหนาของผ้าเบรก ระดับน้ำมันเบรก และรอยรั่วซึมบนพื้น บริเวณล้อ หรือจุดที่เป็นอุปกรณ์เบรก
• ควรเปลี่ยนผ้าเบรกตามระยะเวลาที่กำหนด โดยปกติผ้าเบรกส่วนใหญ่จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 25,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่น และพฤติกรรมการขับขี่ เช่น ถ้าคุณอยู่ในเมืองใหญ่ที่รถติดและต้องเหยียบเบรกบ่อย ๆ ก็อาจทำให้อายุการใช้งานเบรกลดลงเร็วขึ้น

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนผ้าเบรก

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ให้ตรวจเช็กระบบเบรกเพื่อความปลอดภัย เป็นประจำทุก 3 เดือน หรือเมื่อระยะทางครบ 10,000 กิโลเมตร และจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกปี หากจำไม่ได้ว่าเปลี่ยนผ้าเบรกมานานแค่ไหนแล้ว ให้สังเกตว่า เบรกแล้วมีเสียงดังหรือมีความผิดปกติหรือไม่ เบรกมือหลวมจนต้องดึงเบรกมือให้สูงกว่าเดิม หรือรถยนต์บางรุ่น อาจจะมีสัญลักษณ์เตือนที่หน้าปัดรถ เพื่อบอกให้รู้ว่าผ้าเบรกใกล้หมดแล้ว หรือน้ำมันเบรกรั่ว ทำให้เบรกไม่อยู่ และเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้

ไม่ว่าจะมีอาการ เบรกมีเสียงดัง เบรกแตก เบรกสั่น หรือเบรกหมด ก็ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นทั้งนั้น เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายในการขับขี่ ดูแลเบรกแล้วอย่าลืมดูแลส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์ เลือกน้ำมันหล่อลื่นที่มีคุณภาพ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ prince fs1 ของ YS Racing shop สิคะ

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

เบรกรถยนต์ มีปัญหา ต้องรีบแก้ไข

เคล็ดลับการดูแลรถหน้าฝนอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง