ความเร็วในการขับรถ ตามที่กฎหมายใหม่กำหนด
การขับขี่รถยนต์ ผู้ขับขี่ต้องรู้ถึง ขอบเขตในการใช้ ความเร็วในการขับรถ ในขับในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึง การใช้ความเร็วของพาหนะแต่ละชนิด ตามที่กฎหมายใหม่ได้มีการกำหนดไว้
ในปัจจุบัน ข้อกำหนด อัตราความเร็วของ ยานพาหนะ บนท้องถนน มีการเปลี่ยนแปลง และต้องยึดใช้ ข้อกำหนดที่ได้มีการออกมาใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2564 ซึ่งผู้ขับขี่ ควรต้องรู้ถึง อัตราความเร็วในการขับรถ ตามที่กฎหมายใหม่กำหนด เพื่อให้ขับขี่รถได้อย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องกลัวโดนใบสั่ง โดยยานพาหนะ แต่ละประเภท ต้องมีการใช้อัตราความเร็วของรถ ดังนี้
รถยนต์
เช่น รถยนต์ รถเก๋ง สามารถใช้อัตราความเร็ว ในการขับรถได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. หากรถวิ่งอยู่ในเลนขวาสุด ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.
รถจักรยานยนต์
หากเป็นรถจักรยานยนต์แบบทั่วไป เครื่องยนต์ไม่เกิน 400 cc. สามารถใช้อัตราความเร็ว ในการขับรถได้ไม่เกิน 80 กม./ชม. แต่หากเป็น รถจักรยานยนต์ สายบิ๊กไบต์ ที่มีเครื่องยนต์ 400 cc. ขึ้นไป ( หรือกำลังเครื่องยนต์ ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป ) สามารถใช้อัตราความเร็ว ในการขับรถได้ไม่เกิน 110 กม./ชม.
รถบรรทุก
รถบรรทุก สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
- รถบรรทุก หรือรถโดยสาร ที่มีที่นั่งโดยสาร เกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ให้ใช้อัตราความเร็วในการขับรถได้ ไม่เกิน 100 กม./ชม.
- รถบรรทุกที่มี น้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม หรือรถโดยสาร ที่มีที่นั่งโดยสาร เกิน 15 คน ให้ใช้อัตราความเร็วในการขับรถได้ ไม่เกิน 90 กม./ชม.
รถชักจูง / รถยนต์สี่ล้อเล็ก / รถยนต์สามล้อ
พาหนะกลุ่มนี้ กฎหมายกำหนด ให้ใช้อัตราความเร็วในการขับรถได้ ไม่เกิน 65 กม./ชม
รถโรงเรียน / รถรับ-ส่งนักเรียน
พาหนะกลุ่มนี้ กฎหมายกำหนด ให้ใช้อัตราความเร็วในการขับรถได้ ไม่เกิน 80 กม./ชม
รถแทรกเตอร์ / รถบดถนน / รถใช้งานเกษตรกรรม
พาหนะกลุ่มนี้ กฎหมายกำหนด ให้ใช้อัตราความเร็วในการขับรถได้ ไม่เกิน 45 กม./ชม
การกำหนด อัตราความเร็วของพาหนะเหล่านี้ ครอบคลุมทั้งการขับขี่บนทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงชนบท ที่ผู้ขับขี่รถแต่ละประเภท ต้องขับขี่ในความเร็ว ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตนเอง
ทั้งนี้ ในทางเดินรถที่มี เครื่องหมายจราจร แสดงว่าเป็นเขตอันตราย หรือเขตให้ขับรถช้า ๆ อย่างเช่น เขตชุมชน หรือเขตโรงเรียม ผู้ขับขี่ จะต้องลดความเร็วลง และเพิ่มความระมัดระวัง ในการขับรถตามสมควร
อ่านบทความเพิ่มเติม