การดูแลรักษารถยนต์ การมีรถสักคันหนึ่งในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป แต่วิธีการดูแล รักษาสภาพ รถ ให้ อยู่ได้นาน ๆ นั้น ไม่ได้ง่าย อย่างที่คิด ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะเกิดการสึกหรอ หรือ ชำรุด ตามระยะทาง และ ระยะเวลา ใช้งาน ที่เพิ่มขึ้น หรือเกิดจาก สภาพแวดล้อม ที่ใช้งาน หากยัง ไม่มีการ รักษา ซ่อมแซม หรือ ปล่อยไว้ นาน ๆ อาจลดสมรรถนะ ของรถยนต์ และ อาจนำ มาสู่ การเกิด อุบัติเหตุ ได้ ดังนั้น การบำรุงรักษา จึงเป็น สิ่งที่สำคัญ พอ ๆ กับ อายุ การใช้งาน ของรถยนต์ และ การขับขี่ อย่าง ปลอดภัย
แนะนำ วิธี ดูแล รถยนต์ ให้เหมือนใหม่
ทั้งนี้ มีของเหลว ที่ต้อง ตรวจสอบในรถยนต์ อยู่ 6 ที่ นั่นคือ ตัวน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำฉีดกระจกหน้ารถ น้ำยาหล่อเย็น ( ทั้งถังพักน้ำ และ หม้อน้ำ ) น้ำมันพวงมาลัย ให้อยู่ ในระดับ ที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งาน รวมถึงประหยัดน้ำมัน การดูแล ของเหลวใน เครื่องยนต์ ช่วยให้สามารถ ใช้รถยนต์ ได้นาน ยิ่งขึ้น
ขาดไม่ได้เลย กับ ยางรถยนต์ ถือว่า เป็นอุปกรณ์ที่ สำคัญอีก หนึ่งชิ้น เพราะ ทำหน้าที่ รับน้ำหนัก รถยนต์ และ สัมภาระ หากไม่มี การตรวจสอบ ส่วนนี้ อาจเกิด อุบัติเหตุได้ ดังนั้น เพื่อป้องกัน การสึกหรอ ของยาง ก่อนเวลา อันควร แนะนำให้ ตรวจสอบ แรงดันของ ลมยาง ทั้ง 4 ล้อ อย่างน้อย ทุก ๆ 7 วัน เมื่อตรวจสอบ ยางลมเสร็จ ให้เช็ค ความลึก ของร่อง ดอกยาง ด้วยเช่นกัน หากพบ บางอย่าง ผิดปกติ หรือ ไม่แน่ใจ แนะนำให้ ไปตรวจเช็ค สภาพรถ ที่ร้านใกล้บ้าน เพื่อความปลอดภัย ในการขับขี่
สิ่งสำคัญที่ทำให้รถยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น แม้ว่าแบตเตอรี่ในรถจะเป็นแบบ maintenance free หรือ ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษา แต่ควรตรวจสอบเพื่อให้ทำได้งาน ได้อย่างราบรื่น และ มีประสิทธิภาพ นั่นคือ การเชื่อมแบตเตอรี่ที่ดี เพราะ ถ้าหาก เชื่อมต่อ แบตเตอรี่ ไม่ดี ก็จะ ทำให้ การเผาไหม้ ของ รถยนต์ ตลอดจนถึง อุปกรณ์ ไฟฟ้า อื่น ๆ ภายใน รถ ทำงาน ได้ ไม่ดีนัก
เป็นอุปกรณ์ ที่สำคัญ อีกหนึ่งอย่าง ที่ไม่ ควรละเลย เพราะ ในหน้าฝน จะช่วย ปัดทั้งฝน ใบไม้ เศษดิน ที่เกาะ อยู่ที่ กระจกรถยนต์ พร้อมทั้ง ทำความสะอาด เพื่อให้ ทัศนวิสัย ในการขับขี่ ปลอดภัยอีกด้วย ในกรณี ที่ปัดน้ำฝน ไม่สามารถ กวาดน้ำ ได้อย่างมี ประสิทธิภาพแล้ว หรือ ทิ้งพวก คราบต่าง ๆ ไว้บน กระจกรถยนต์ นั่นแปลว่า ถึงเวลา เปลี่ยน อันใหม่ ได้แล้ว
โดย ปกติ สายพาน รถยนต์ จะมี การใช้งาน ที่ประมาณ 50,000 กิโลเมตร หรือ 2 - 3 ปี ค่อยเปลี่ยนใหม่ หาก ใช้งาน สายพาน ดังกล่าว ได้ ประมาณ 40,000 กิโลเมตร เมื่อ ตรวจสอบ แล้ว พบว่า มี การสึกหรอ หรือ รอยแตก แนะนำ ให้ เข้าศูนย์บริการ เพื่อ เปลี่ยน สายพาน หน้าเครื่องใหม่
อ่านบทความเพิ่มเติม :
เคล็ดลับเทคนิคแก้ง่วง เพื่อการขับขี่ปลอดภัย
เทคนิคการไล่ฝ้าในรถยนต์ เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย