YS Racing - เคล็ดลับการดูแลรถหน้าฝนอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง

เว็บซือขาย ฤดูฝนมักจะทำให้ถนนเปียก และถนนลื่น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดอุบัติเหตุได้ การบำรุงรักษาและ การดูแลรถหน้าฝน อย่างเหมาะสม ช่วยให้ระบบความปลอดภัยของรถดีขึ้น เช่น ที่ปัดน้ำฝน เบรก ยาง แบตเตอรี่และหลอดไฟ เพื่อลด โอกาสเกิดอุบัติเหตุ หรือสูญเสียการควบคุม

YS Racing - เคล็ดลับการดูแลรถหน้าฝนอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง ฤดูฝนมักจะทำให้ถนนเปียก และถนนลื่น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดอุบัติเหตุได้ การบำรุงรักษาและ การดูแลรถหน้าฝน อย่างเหมาะสม ช่วยให้ระบบความปลอดภัยของรถดีขึ้น เช่น ที่ปัดน้ำฝน เบรก ยาง แบตเตอรี่และหลอดไฟ เพื่อลด โอกาสเกิดอุบัติเหตุ หรือสูญเสียการควบคุม

เคล็ดลับการดูแลรถหน้าฝนอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง

เคล็ดลับการดูแลรถหน้าฝนอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง


รถยนต์ เป็นยานพาหนะ ที่มีความจำเป็น และมีความสำคัญ สำหรับการเดินทางอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหน้าฝน คุณต้องขับรถลุยน้ำ ลุยฝน ถนนลื่น จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการขับขี่มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน

ฤดูฝน เป็นฤดูที่รถของคุณเลอะเทอะที่สุด หลาย ๆ คน มักจะละเลยการดูแลรถ ในฤดูกาลนี้ รวมถึงมองข้ามการล้างรถ  เพราะล้างไปไม่นานก็เลอะอีก การตรวจเช็กระบบต่าง ๆ ของรถ  ก็ถูกมองข้ามตามไปด้วย ฤดูฝนส่งผลกระทบต่อรถ และการขับขี่อย่างมาก และสำหรับวิธีการดูแลรถหน้าฝน ให้พร้อมใช้งาน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณมีวิธีการดูแลรถที่ดี จะช่วยให้คุณหมดกังวล และปลอดภัยทุกการขับขี่ตลอดเส้นทาง

 

 

 

1.      เช็กสภาพยางรถยนต์ และลมยาง

 

ยางรถยนต์ และลมยาง ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้ามในทุกฤดูกาล ควรตรวจเช็คอยู่เสมอ โดยเฉพาะฤดูฝน ที่หากยางรถยนต์เสื่อมสภาพ ดอกยางสึก หรือใช้งานจนแทบไม่เหลือดอกยาง แก้มยางบวม หรือยางมีรอยแตกลายงา แนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า ดอกยางจะทำหน้าที่ รีดน้ำบนถนนได้ดี และช่วยให้รถ ยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับระดับลมยาง เมื่อสภาพยางรถอ่อน หรือไม่พร้อมต่อการใช้งาน ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ลื่นไถลได้ในขณะเข้าโค้ง ยิ่งช่วงหน้าฝน ยิ่งมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้น อย่าปล่อยให้ยางรถเสื่อมสภาพ หรือลมยางอ่อน เพราะอาจทำให้เราเกิดอันตรายขึ้นได้

 

2.      เช็กสภาพใบปัดน้ำฝนหน้ารถยนต์

 

ใบปัดน้ำฝน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นภายนอก  ได้ดีเท่าที่ควร ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ อาจทำให้เสี่ยงต่อ การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างมาก ยิ่งวันฝนตกหนัก แล้วใบปัดน้ำฝนทำงานไม่ดี ก็อาจทำให้คุณมองไม่เห็นข้างหน้า เรียกว่าทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีนั่นเอง นอกจากนี้ ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพสังเกตได้ง่าย ๆ คือใบปัดน้ำฝน จะมีลักษณะแข็งกรอบ จนทำให้กระจกหน้ารถเป็นรอย ปัดสะดุด ปัดแล้วเป็นเส้นๆ และมีเสียงดังเวลาทำงาน เพื่อความปลอดภัย ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ทุกปี และควรตรวจเช็ค ที่บรรจุน้ำฉีดกระจกอย่างสม่ำเสมอ โดยระดับน้ำต้องไม่เหลือน้อยจนเกินไป  ควรเติมน้ำยาฉีดกระจกอยู่เสมอ เพื่อช่วยทำความสะอาดกระจกให้ใสยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมต่อการใช้งานในช่วงหน้าฝน

 

3.      ล้างรถหน้าฝน

 

ฤดูฝน เป็นช่วงเวลาที่รถของคุณ เลอะเทอะมากที่สุด ไม่ควรปล่อยให้รถเปื้อน คราบฝุ่น หรือเศษดินเศษโคลนจากการ ขับรถลุยน้ำขัง แนะนำให้ล้างรถเป็นประจำจะดีกว่า เพราะเศษดินโคลนที่แห้งกรัง จะเกาะติดตัวรถ แล้วทำลายสีรถยนต์ได้เช่นกัน แถมยังอาจเสี่ยง ต่อการเกิดสนิทตามซอกต่าง ๆ ของรถยนต์ได้ด้วย อีกทั้งน้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ บวกกับมลพิษในอากาศ โดยเฉพาะย่านนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ฝนที่ตกลงมา มีสภาพเป็นกรดสูง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ล้างรถ จะกัดกร่อนสีรถให้หมอง และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

 

4.      เปลี่ยนหลอดไฟ ทำความสะอาดไฟหน้ารถ

 

หลายคนมักจะมองข้ามไฟรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ไปถอยหลัง ไฟตัดหมอก ที่ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไฟหน้าที่โดนรังสียูวี จนหลอดไฟเหลือง หมองมัว หรือมีสิ่งสกปรก ทำให้ไฟส่องสว่างไม่เต็มที่ ยิ่งในวันที่ฝนตกหนัก อาจส่งผลต่อทัศนวิสัย ในการขับรถตอนกลางคืนได้ หากไฟหน้ามีรอยแตกร้าว ก็อาจส่งผลให้เกิดความชื้น ทำให้เกิดคราบเหลือง และไม่สามารถทำความสะอาดจากภายนอกได้ แนะนำให้ทำความสะอาดไฟหน้า ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด ถ้าหลอดไฟขาด ก็ควรรีบเปลี่ยน ให้ทำงานได้ตามปกติจะปลอดภัยที่สุด เพราะไฟทุกหลอดภายในรถ ล้วนมีความสำคัญมากต่อการขับขี่ หากพบว่าหลอดไฟชำรุด หรือหมองมัว ต้องรีบเปลี่ยนทันที

 

5.      ใส่ใจกับแบตเตอรี่รถยนต์

 

คงไม่ดีแน่ ถ้ารถสตาร์ทไม่ติด ในวันฝนตกหนัก หรือเครื่องดับกลางถนน เพราะแบตเตอรี่หมด เราแนะนำให้ตรวจเช็กอายุการใช้งาน ของแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจเช็กบริเวณขั้วแบตเตอรี่ ว่ามีสิ่งสกปรก คราบขี้เกลือสีขาว ๆ หรือผงแป้งบนขั้วแบตเตอรี่หรือไม่ หากมีคราบสกปรก สามารถทำความสะอาดขั้วต่อ  และขั้วแบตเตอรี่ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่โดยเฉพาะ หรือแวะเข้าไปเช็กที่ศูนย์บริการใกล้บ้านคุณ เพื่อให้ช่างดูแลจะดีกว่า

 

6.      เช็กระบบเบรกรถยนต์

 

ควรตรวจเช็คระบบเบรกอยู่เสมอ เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในระบบที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ ที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ที่อาจทำให้เสี่ยงต่อการ เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ เพราะระบบเบรกช่วยให้คุณหยุดรถได้ ดังนั้นควรนำรถเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ที่ไว้วางใจ เพื่อให้ช่างตรวจเช็กระบบเบรก  หากผ้าเบรกบางเหลือเพียง 3-5 มิลลิเมตร ผ้าเบรกเริ่มกินจานเบรก เหยียบเบรกลึกกว่าเดิม ก็ถึงเวลาที่คุณควรเปลี่ยนผ้าเบรกได้แล้ว และน้ำมันเบรก ควรเปลี่ยนทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นำรถไปเช็กระบบเบรกเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน

 

7.      ทำความสะอาดภายในรถยนต์ลดกลิ่นอับ

 

นอกจากการดูแลภายนอกรถยนต์แล้ว ภายในรถยนต์ ก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน หากคุณตัวเปียกแล้วขึ้นรถ หรือภายในเปียกชื้น ก็อาจส่งผลให้รถมีกลิ่นเหม็นอับได้ นอกจากนี้ อาจเกิดเชื้อรา ที่สะสมภายในรถหากความชื้นคงอยู่เป็นเวลานาน แนะนำให้ทำความสะอาดที่วางเท้า เมื่อกลับถึงบ้าน ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด หรือไดร์เป่าผมไล่ความชื้นจากเบาะรถยนต์ หรือเช็ดเบาะให้แห้งเสียก่อน แล้วใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนังเช็ดอีกครั้ง หากรถของคุณมีกลิ่นอับชื้น แนะนำให้เข้าร้านล้างรถ เพื่อคืนอากาศหอมสดชื่นภายในรถยนต์

 

8. ไม่ควรขับรถเร็วมากจนเกินไป ควรมีสติตลอดเวลา

 

นอกจาก การดูแลรถช่วงหน้าฝนแล้ว เมื่อคุณขับรถช่วงหน้าฝน แน่นอนเลยว่าปัญหาที่ตามมา ก็คืออาจจะทำให้ ทัศนวิศัยการมองเห็นภายนอกไม่ชัดเจน ดังนั้นควรลดระดับความเร็ว ให้มีความเหมาะสม ไม่ควรขับรถจี้ท้ายรถคันหน้าจนเกินไป ไม่ควรเหยียบเบรกแบบกะทันหัน และที่สำคัญต้องมีสติตลอดเวลา ขณะขับรถ ไม่ควรประมาท จับพวงมาลัยให้มั่น หากมีการระมัดระวังที่ดี และไม่ประมาท ก็สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ทุกการเดินทาง

สำหรับวิธีการดูแลรถยนต์ในหน้าฝน ต้องหมั่นดูแลรักษา และตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ เพื่อทำให้ขับขี่ของคุณ ปลอดภัยทุกการเดินทาง สำหรับบทความ  ที่เรานำมาฝากนี้ หากคุณนำไปปฏิบัติตาม รับรองเลยว่าทุกการขับขี่ของคุณ ไม่ว่าจะช่วงฤดูฝน หรือฤดูไหน ก็จะมีความปลอดภัย ตลอดเส้นทางอย่างแน่นอน

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

เบรกรถยนต์ มีปัญหา ต้องรีบแก้ไข

เคล็ดลับการดูแลรถหน้าฝนอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง